การยืนม้าท่ายืนที่สำคัญที่สุดในวิชามวยจีนเกือบทุกวิชาคือท่า”หม่าปู้” คำว่า”หม่า”ในภาษาจีนแปลว่าม้า ส่วนคำว่า”ปู้”แปลว่าก้าวหรือท่าก้าวดังนั้น”หม่าปู้”จึงรู้จักในชื่อว่า”ยืนม้า”หรือ”นั่งม้า” คือการยืนที่มีลักษณะเหมือนนั่งบนหลังม้า
ผู้คนมักเข้าใจผิดว่าการ”ยืนม้า”หรือ”หม่าปู้”เป็นท่ายืนพื้นฐานแต่แท้จริงแล้ว”หม่าปู้”เป็นทั้งพื้นฐานและขั้นสูง ถือเป็นท่าที่เป็นหัวใจของมวยจีนเพราะไม่ว่าผู้ฝึกจะฝึกถึงระดับไหนก็ตามก็ล้วนแต่ยังคงเกี่ยวข้องกับ”หม่าปู้”ทั้งสิ้นและเช่นกัน”หม่าปู้”มักถูกคิดว่ามีไว้ฝึกกำลังขาเท่านั้นแต่แท้จริงแล้ว”หม่าปู้”ยังเกี่ยวข้องกับการใช้จริงในการต่อสู้ ,การเสริมสร้างพลังโจมตี,การสร้างความเป็นหน่วยเดียวของร่างกาย,การยืนชี่กง,และการฝึกร่ารำท่ามวย,การฝึกหยั่งรากที่แข็งแรง ฯลฯ
จะเห็นว่า”หม่าปู้”มีผลมากมายต่อการฝึกและเกี่ยวพันกับทุกระดับในการฝึกแต่อย่างไรก็ตามระดับและผลที่ได้จากการฝึก”หม่าปู้”นั้นขึ้นอยู่กับระดับของการฝึก”หม่าปู้”ว่าผู้ฝึกเข้าใจมันได้มากน้อยเพียงใดนอกจากนี้”หม่าปู้”ยังเกี่ยวพันกับการฝึก”ชี่กง”ในท่ายืนหรือการฝึกสมาธิยืนที่เรียกว่า”จ้านจ้วง”หรือ”ฉานฉวง”
ดังนั้นจะเห็นว่าจากการยืน”หม่าปู้”เพื่อฝึกกำลังขาสามารถพัฒนาระดับการฝึกสู่การฝึก”ชี่”ซึ่งเป็นการฝึกภายในได้ดังนั้นจะเห็นว่า”หม่าปู้”มีความลึกล้ำและมีความสำคัญเกี่ยวพันกับการฝึกฝนอันช่วยให้การพัฒนาฝีมือเป็นไปอย่างรวดเร็วและยังมีประโยชน์มากมายมหาศาล ซึ่งผู้ที่ไม่ได้ลองฝึกจะไม่มีทางเข้าใจได้เลย
วิธีการฝึกหม่าปู้
1.”หม่าปู้”มีการยืนหลายระดับ การยืนแบบสูงจะยืนฐานแคบ เท้าขนานไหล่ปลายเท้าชี้ไปข้างหน้าขนานกัน

(ดังรูป1แสดงท่าวางเท้าที่ผิดคือแบบแบะออก และที่ถูกคือเท้าขนานกัน)
ย่อเข่าลงเล็กน้อยหย่อนก้นคล้ายทรุดนั่งลง แต่ไม่ให้ก้นต่ำเกินเข่า ขณะนั่งลงอย่าโย้เข่าไปด้านหน้ายืนให้เข่าและขาอยู่นิ่ง จากนั้นกระดกหัวเหน่าไปด้านหน้าเล็กน้อย(อาจต้องแขม่วท้องเล็กน้อย)จัดให้หลังตรง ค่อยๆคลายท้อง โดยไม่เปลี่ยนท่าการยืนหรือยื่นก้นออกไป ศีรษะและหลังตตั้งตรง

(ดังรูปที่2)แขวนกะหม่อมราวกับมีเชือกดึงจากด้านบน ตามองไปข้างหน้า มือกำไว้ข้างเอว หรือยื่นตรงออกไปข้างหน้าหรืออาจจะทำท่าโอบบอลแบบไท่เก๊กก็ได้ คลายไหล่ จัดน้ำหนักให้ตกกระจายบนฝ่าเท้า ยืนให้มั่นคงไม่โยกหน้าหลัง
2.วางจิตที่เท้า(หยั่งราก) ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีความมั่นคงจากนั้นเชื่อมโยงร่างกายส่วนต่างๆให้เป็นหน่วยเดียวกันโดยการจัดร่างกายและการใช้จินตนาการจะช่วยให้ง่ายขึ้น
3.พยายามตรวจเช็คส่วนต่างๆของร่างกาย เมื่อร่างกายถูกต้องแล้วให้พยายามทำร่างกายให้ผ่อนคลายมากที่สุด
4.เมื่อเวลาผ่านไป สามารถลดระดับความสูงของการยืนลง โดยแยกขาให้ห่างมากขึ้นแต่ไม่ควรมากเกินไป ปกติแล้วควรมากสุดประมาณ 2 เท่าของไหล่ หรือมุมเข่าเป็นมุมฉาก (รูปที่ 3,4แสดงการยืนม้าต่ำ ฐานกว้าง)

5.ในระยะแรกผู้ฝึกอาจต้องการเพียงฝึกกำลังขาแต่อย่างไรก็ตามการตั้งสมาธิและสำรวมลมหายใจจะทำให้ผ่อนคลายได้มากขึ้นและทำให้ความปวดเมื่อยลดน้อยลงได้
6.เวลาที่ยืนไม่ควรมากหรือน้อยเกินไป แรกๆผู้ฝึกอาจยืนแค่ 2-3 นาทีแต่เมื่อนานไปผู้ฝึกสามารถเพิ่มระยะเวลาในการฝึกให้มากขึ้นได้ถึง 1 ชั่วโมงผู้ฝึกควรหาเวลาที่พอดีของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักอยู่ที่ประมาณ 15-20 นาที หากผู้ฝึกรู้สึกเหนื่อยเกินไปอาจแบ่งการฝึกออกเป็นหลายรอบ รอบละประมาณ 5 นาที ซึ่งผู้ฝึกอาจฝึกได้ถึงวันละ 4-5 รอบ
7.เป็นวิธีที่ดีในการที่จะทำใจให้เป็นสมาธิและสำรวมลมหายใจในขณะยืนการใช้จินตนาการจะช่วยให้ผู้ฝึกมีสมาธิขึ้น ผู้ฝึกอาจจะจินตนาการถึงภาพที่สวยงามต่างๆเช่นจินตนาการว่ายืนอยู่บนยอดเขา หรือในป่าที่ร่มรื่น รวมถึงการวางจิตที่ตันเถียน แต่อย่างไรก็ตามผู้ฝึกไม่ควรจะจดจ่อกับการสร้างภาพความคิดมากเกินไปเพราะจะทำให้ไม่สามารถผ่อนคลายจิตได้และผู้ฝึกไม่ควรที่จะพยายามหายใจด้วยท้องหรือหายใจแบบปฏิภาคผู้ฝึกควรค่อยๆควบคุมกระบวนการเหล่านี้ให้ค่อยเป็นค่อยไป เมื่อนานไปการหายใจจะลึกและยาวขึ้นเอง
8.จินตนาการถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของร่างกายกับพื้นดินและกับสภาพแวดล้อมรอบกายหรือกับสภาพแวดล้อมในจินตนาการ วิธีนี้จะช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ภายในร่างกายและระหว่างร่างกายกับสภาพแวดล้อมภายนอก
3 comments:
pagerank service john seo backlink service 10000 backlinks
thaitaiji.blogspot.com image source เราไม่ได้ คุย สาย ปลาย เล็ก ๆ เช่น $ 1500-2500 คุณ กำลังมองหาที่ เส้น ส่วนบุคคลของ เครดิตของ $ 10,000 หรือมากกว่า
You are so cool! I don't suppose I've truly read through a single thing like this before. So great to discover somebody with some unique thoughts on this topic. Really.. thanks for starting this up. This web site is something that is required on the internet, someone with some originality!
[url=http://truebluepokies4u.com]view more information here[/url]
Post a Comment