Saturday, October 29, 2005

เทพกระบี่

ถาม:

มีใครเก่งถึงขั้นนี้มั่งครับ ในประวัติศาสตร์จีนง่ะเพราะคนที่เก่งเข้าขั้น จริง จะใช้อ่ะไรแทนกระบี่ ก้อได้หรือไม่มีกระบี่อยู่ในมือก้อยังสู้ได้ ผมอาจอ่านการ์ตูนมากไปแต่ว่าแค่อยากรู้เฉย ๆ ว่ามันมีจริงป่าว ครับ

ตอบ: (โดยอาจารย์เหลียง สำนักเสี้ยวเฉิน)
ก็มีท่านหลี่จิ้งหลินครับ ได้ฉายาว่าเซียนกระบี่(เจี้ยนเซียน) แต่อย่างไรก็ตามเรื่องฉายานี่อย่าคิดมากครับเพราะตั้งแต่นางโลมยันขุนนาง ส่วนใหญ่ก็มีฉายากันทั้งนั้นมันเป็นวัฒนธรรมครับ
แต่อย่างไรก็ตาม(อีกที)ท่านหลี่จิ้งหลินก็เป็นที่ยอมรับในฝีมือกระบี่ของท่านมากครับ(กระบี่คุนอู่)อีกทั้งท่านมีส่วนในการเผยแพร่วิชากระบี่ไปทั่วแผ่นดินครับ
ส่วนเรื่องกระบี่อยู่ที่ใจทั้งหลายนั้น คงเป็นโกวเล้งมั่วมาครับ อย่าคิดมาก มือกระบี่ไม่ถือกระบี่ไม่ใช้กระบี่ จะเรียกมือกระบี่ได้ยังไง ผมยังคิดไม่ออกเลย แต่เท่าที่ดู ส่วนมากจะมีคนมีชื่อเรื่องดาบ และมีการกล่าวถึงหรือบันทึกถึงเรื่องใช้ดาบในการต่อสู้มากกว่ากระบี่ครับ

ตอบ: (ไร้ค่าย)

คำว่าไร้กระบี่ หรือ กระบี่ใจ หากเรามองเผินคงคล้ายกับที่ อ.เลียงบอก แต่ คำว่าไร้กระบี่ หรือกระบี่ใจหมายถึง การไม่ยึดติดกับตัวกระบี่ ไทเก็กมีคำกล่าว แข็งคือตาย อ่อนคือเป็น การยึดกระบี่คือตาย ปล่อยกระบี่คือเป็นคิดง่ายๆ ใครจะถือกระบี่ได้ตลอดเวลา เมื่อจำเป็นไม่ว่าอะไรในมือก็ต้องใช้ และใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุดนั่นคือมือกระบี่ หากบอกว่ามีกระบี่ในมือจึงถือเป็นมือกระบี่ ใครถือก็เป็นได้ซิครับผมว่าลองศึกษา คัมภีร์แห่งห่วงทั้ง 5 ของมิยาโมโต้ มุซาชิดูและครับ จะเข้าใจมากขึ้น

ตอบ: (ไร้เงา)

ได้ลองอ่านความเห็นของ คุณไร้ค่ายมา ถูกต้องครับ เมื่อกระบี่อยู่ที่ใจแล้ว ทุกอย่างก็คือกระบี่ ง่ายๆ อย่างเช่น ตะเกียบ ถ้ามองตะเกียบว่าเป็นตะเกียบ เราก็จะมองไม่เห็นว่าตะเกียบเป็นอาวุธ

ตอบ: (เธียรศิริ)

ถ้าดาบก็รู้จักแต่มูซาชิน่ะครับ พี่แกเวลาไม่มีดาบแกเล่นเอาฝีพายตบเลยระดับจิตท่านถึงขั้นไม่ยึดติดดาบเช่นกันครับ ถ้าไงลองอ่านมูซาชิท่าพระจันทร์ของอาจารย์สุวินัยดูนะครับมันส์มั่กๆ

ตอบ:(เหลียง)

สวัสดีครับ อ่านแล้วอยากมาต่อครับ ไม่ได้จะมาปฏิเสธทุกท่าน แต่อ่านแล้ว อยากเอาความเห็นต่างๆที่ได้อ่านรวมมาตอบสู่ท่านเจ้าของกระทู้อีกทีครับ

ปัญหาแรกที่ผมเห็นคือ เราเอาเกณฑ์อะไรจัดว่าคนๆนั้นคือมือกระบี่ ไม่ใช่เป็นมือมีด มือฉกฉวย มือวางเพลิงมือระเบิด มือมรณะ มือสยอง มือใครยาวสาวได้สาวเอา เอามือข้าคืนมาฯลฯ แล้วถ้าเราเจอคนเอาไม้ฟาดกันเราจะบอกว่าเค้าเป็นมือกระบี่หรือไม่

คุณฝึกกระบี่หรือไม่ หรือรู้จักคนฝึกกระบี่กี่คน

อย่างน้อยผมรู้จักหนึ่งคน คือ อ.ที่สอนไท่จี๋หยางใหม่ให้ผมเอง ท่านฝึกกระบี่ แต่ยังไม่อาจเป็นมือกระบี่ ฝีมือกระบี่ท่านมีเท่าไหร่ไม่ทราบได้ เนื่องจากพอผมฝึกรำได้แค่ท่าทาง ไม่นานผมก็ไปฝึกไท่จี๋หยางเก่าแล้ว(ท่านแนะนำไปเอง) ซึ่งต่อมาผมได้ฝึกแค่ดาบไท่จี๋แบบเก่า อ.ท่านบอกว่าไม่มีฝึกกระบี่ ผมจึงไม่ได้ฝึกต่ออีก ผมจึงขอเอาความรู้อีกด้านของดาบมาว่าร่วมด้วยนะครับ

นี่คือสิ่งที่ผมเคยสัมผัสจาก อ. ของผม ท่านรู้จักกระบี่แทบทุกชนิดในแผ่นดินจีน แต่ละชนิดมีลักษณะต่างกันอย่างไรท่านรู้จักการเลือกกระบี่ที่เหมาะสมกับตัวเอง และกับชนิดมวยถามว่ามีกี่ท่านที่เคยเลือกกระบี่ที่ซื้อมาเอง เห็นที่ซื้อมามีแต่แบบสำเร็จรูปเคยทราบกันมั้ยครับว่าจะเลือกกระบี่เหมาะสมกับความสูงของร่างกายอย่างไรท่านรู้จักเคล็ดกระบี่ในแผ่นดินจีนว่ามีกี่เคล็ด และใช้ต่างกันอย่างไร อย่างที่บอกผมไม่ทราบของกระบี่แต่ของดาบมีสี่สิบเจ็ดเคล็ด ไท่จี๋นำมาบางส่วน แค่สิบสามเคล็ด สิ่งอี้ มีหลักๆ ห้าเคล็ด

ท่านรู้ว่าไท่จี๋ใช้กระบี่อะไร ความยืดหยุ่นแค่ไหน ศูนย์ถ่วงกระบี่อยู่ตรงไหนและรู้ว่าควบคุมข้อมืออย่างไร จึงจะคุมศูนย์กลางกระบี่ได้ท่านรู้จักกระบี่ในมือ รวมทั้งปลอกกระบี่ของท่านราวกับรู้จักฝ่ามือตนเองตอนที่ท่านสอนกระบี่ให้ผม(เล็กน้อย) ท่านให้ผมถือกระบี่ตลอดเวลา เพื่อให้ชินกับกระบี่ แต่หลายสิบปีท่านถือกระบี่เล่มเดิม ฝึกฝนทุกวัน ถามว่าในที่นี้มีกี่ท่านที่จำได้ว่ากระบี่ของตัวเองเป็นอย่างไรท่านรู้จักคมกระบี่ของท่านดี ท่านรู้ว่าฟันลงไปหนักเท่าไหร่ จึงจะเกิดแผล หรือไม่เกิดท่านรู้การร่ายรำ การใช้กระบี่ในการต่อสู้ รู้การรุกรับ การจรดท่า การใช้ท่าร่างฯลฯ

ผมถามกลับว่าแล้วใครคู่ควรเป็นมือกระบี่ คนถือตะเกียบ หรือคนอย่างเช่นข้างบนหนังสือมุซาชิ เกรงว่าผมจะอ่านมานานกว่าทุกท่านครับ เพราะผมมีทั้งฉบับไทย อังกฤษ และญี่ปุ่นผมชอบจนฝากเพื่อนที่ญี่ปุ่นส่งมาให้ ของไทยผมอ่านตั้งแต่ที่มีแปล ที่ออกมาราวสิบกว่าปีก่อนช่วยอ่านคัมภีร์ห่วงทั้งห้าอีกทีด้วยครับว่า ในนั้นสอนการใช้ตะเกียบ หรือสอนการใช้ดาบ มุซาชิกล่าวถึงชนิดดาบ ดาบยาว ดาบสั้น การจรดดาบ สูง กลาง ต่ำ การต่อสู้ด้วยดาบ ชนิดของการโจมตี ฟาด ฟันการศึกษาทางดาบสำนักอื่นฯลฯ แต่ไม่เจอการใช้ตะเกียบหรือไม้พายครับ

มือกระบี่หากไม่มีกระบี่ การต่อสู้คงเป็นธรรมชาติที่เค้าจะหยิบจับอะไรมาใช้ ทั้ง อ.ผม และมุซาชิมีกล่าวถึงจุดนี้อยู่บ้าง แต่เค้ายังใช้เคล็ดกระบี่ และเค้าฝึกกระบี่ เค้ารู้จักกระบี่เค้าถึงเป็นมือกระบี่ ไม่ใช่จับอะไรก็ใช้ได้จะเป็นมือกระบี่ ปัญหาคือฝึกอย่างไร และใช้อย่างไร

นักมวยวิ่งวันละสามสิบกิโล ถามว่าถ้าเค้าจะวิ่งไล่จับโจร คงไม่ยาก เพราะความอึดมีมากจริงๆแต่เค้ายังเป็นนักมวย ไม่ใช่นักวิ่ง เพราะเค้าฝึกมวย แต่ถ้าเค้าฝึกวิ่ง เค้าคงไม่ใช่นักมวยแล้ว มือกระบี่ฝึกกระบี่ถึงเป็นมือกระบี่ ส่วนจะใช้อะไรได้ มันเป็นเรื่องส่วนตัวครับ

ผมอยากสื่อว่า ยึดถือแนวทางที่ถูกเถอะครับ สำนักผมจะซื้อดาบซื้อทวน ต้องเลือกแล้วเลือกอีกจะเอาไม้พายมาแทนก็คงไม่ใช่ฝึกดาบแล้ว เพราะมันไม่สามารถสื่อถึงเคล็ดดาบได้ แต่เวลาใช้จะเอาเก้าอี้ฟาดก็คงต้องทำ เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่คนฝึกดาบ แล้วจะใช้เก้าอี้ฟาดแทนก็คงทำได้ดีกว่าคนทั่วไป เพราะเคยฝึกฟาดดาบมา มันเป็นเรื่องส่วนบุคคลครับผมเขียนอีกที เพราะไม่อยากให้เอานิยายโกวเล้งมายึดถือมากเกินไป จะอ่านก็อ่านกิมย้ง(ผมก็ชอบ)จะดีกว่าผมกลัวคนฝึกจะมั่ว เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างใจหมาย หากจะเป็นขั้นสูงก็เอาเป็นรื่องที่ท่านนั้นๆจะบรรลุเอาละกันครับ

สมัยก่อนผมก็เห็นงี้ คนที่บอกว่าฝึกมวยต้องไร้ท่าอย่ายึดติด ไร้รูปไร้ตัวตน คนก็ทำอะไรไม่ได้(เค้าว่างั้น) พอให้รำมวย ต้องบอกว่าไม่เอาอ่าวครับสู้ก็ไม่เป็น นี่ถ้ามีคนฝึกกระบี่ แล้วใช้กระบี่ไม่เป็น ก็คงเข้าใจนะครับ.....ว่าทำไมเรื่องสรรพสิ่งคือความว่างหาใช่ของจริง ไว้อ่านในหนังสือทางธรรมน่าจะดีกว่าครับ ใครจะเข้าถึงตรงไหนให้เป็นเรื่องส่วนบุคคล อย่าเอามาปนกับ”หลัก”ของการฝึกกันเลย เพราะทุกวันนี้พวกฝึกเทคนิคเป็นท่าๆ ประเภทท่าล็อค ท่าทุ่ม ท่าเตะเค้าไประดับโลกกันหมดแล้วมวยจีนยังอยู่กับที่ แถมยังต่ำลงกว่าเติมอีก ยิ่งถ้าฝึกไร้ท่ากันอีก คงวายกันหมดพอดีผมจะเขียนแค่นี้ละครับ เป็นอีกหนึ่งความเห็นครับ อาจขัดแย้งหลายท่านก็ขออภัยและต้องการสื่อถึงเจ้าของกระทู้เท่านั้นครับว่าผมคิดยังงี้

นอกเรื่องนิดครับ ถามคุณไร้ค่ายครับที่ว่า “ไทเก็กมีคำกล่าว แข็งคือตาย อ่อนคือเป็น การยึดกระบี่คือตายปล่อยกระบี่คือเป็น” ด้วยความเคารพนะครับ อยากทราบว่ามีกล่าวในข้อความบทไหนของใครครับ คำว่า”แข็งคือตายอ่อนคือเป็น” เห็นมีในเต้าเต๋อจิงบทที่เจ็ดสิบหก วรรคแรก แต่ไม่เคยเจอในตำราไท่จี๋เล่มใดในไท่จี๋เจอแต่ทำนองว่าแข็งอ่อนประสานเสริมไท่จี๋คือความถึงพร้อมสมบูรณ์ คือถ้ามีในตำราท่านจางซานฟงหวังจงเยว่ อู่อี๋เซี่ยง หรือในเคล็ดตระกูลหยางก็ช่วยบอกด้วยครับ(ผมมีหนังสือภาษาจีนทั้งหมดครับถ้าบอกมาจะได้เช็คดู เป็นความรู้ใหม่ครับ) ส่วนเคล็ดกระบี่ ถึงผมไม่ฝึก แต่ยังเสียดายถึงทุกวันนี้จึงหาซื้อตำราทั้งอังกฤษและจีนมาอ่านไม่น้อย ไม่เคยเจอเคล็ดนี้ หากท่านทราบ ช่วยแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับขอบคุณครับ

ปล.ผมเข้าใจประเด็นเรื่องไม่ยึดติดของคุณไร้ค่ายนะครับ ว่าฝีมือถึงแล้วหยิบจับอะไรก็ได้แค่อยากแย้งตรงที่ว่า ”เมื่อจำเป็นไม่ว่าอะไรในมือก็ต้องใช้ และใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุดนั่นคือมือกระบี่” ว่าคำว่ามือกระบี่คงไม่จบแค่นั้นครับ และอีกอย่างเกรงมีคนอ่านไม่เคลียร์แล้วจะไปฝึกตามใจฉันไร้ท่าก็ฝึกได้ แถมเข้าใจว่าเป็นขั้นสูง ผมเกรงว่าจะเป็นแบบคนฝึกมวยไร้ท่าแบบที่ผมว่าน่ะครับ ขอบคุณครับ

ตอบ: (ไร้ค่าย)
ขอบคุณ อ.เลียงมากที่กรุณาโดยส่วนตัว ผมเห็นด้วยกับ อ.เหลียง ที่ควรฝึกอย่างมีระบบตามลำดับ เพื่อให้ได้วิชาที่ถูกต้องตามสายวิชา
แต่หากดูกระทู้ถามว่ามีเทพกระบี่หรือไม่ ทั้งหมดที่โพส เป็นความเห็นว่าระดับสูงมี เปรียบกับการศึกษาถามว่ามีด็อกเตอร์ไหม ตอบว่ามี แต่อยู่ๆจะให้เป็นด็อกเตอร์เลยไม่ได้ ต้องเรียนประถมก่อน มัธยมตามและสูงขึ้นไปตามลำดับ มันแนวตอบเดียวกับเทพกระบี่ ว่ามีโดยส่วนตัวผมตีความแล้วไม่เห็นผู้วางกระทู้จะถามว่าฝึกอย่างไร จึงจะตอบว่าฝึกอย่างไร
ผมแค่ตอบว่าระดับนั้นมีอะไรบ้าง คิดว่าผู้อ่านคงเข้าใจ เรื่องเคล็ดวิชาที่บอกไป ต้องเข้าใจว่าเมื่อก่อนผู้คนยึดติดกับปรัชญา ทุกอย่างอิงหลักปรัชญาทั้งหมดโดยเฉพาะคนจีน ในการศึกษาวิชาใดๆก็ตามต้องเข้าใจถึงคนคิดค้นวิชาด้วยว่าทำไมจึงคิดเลือกใช้เคล็ดวิชาเหล่านั้น ทั้งๆที่อย่างที่อ.เหลียงโพสว่าเคล็ดทั้งหมดมีมากมาย ทำไมคนที่เราเรานับถือจึงเอาเพียงไม่กี่อย่างมาสอน เพราะฉะนั้นหากบอกว่าสิ่งที่ อ.ไม่กล่าวจะไม่มี อาจด้วย อ.เหล่านั้นเห็นว่าปรัชญาเต๋าเป็นธรรมชาติของคนจีน จึงไม่พูด แต่หากเราไม่ศึกษาเราจะรู้อย่างไรว่าถูกต้องส่วน ข้อความจากคัมภีร์แห่งห่วงทั้งห้า ผมไม่ได้อ่านจากหลายประเทศหรอกครับผมอ่านฉบับเดียวจำไม่ได้ว่ากี่เที่ยว จำได้อย่างหนึ่งว่ามากกว่าร้อยเที่ยว จำไม่ได้หมดครับจำได้ไม่กี่คำ (เป็นฉบับแปลของ คุณสุริยฉัตร ) มีคำกล่าวที่ว่า "รู้หนึ่งคือรู้หมื่น"นั้นเป็นการบอกอย่างชัดๆว่าอย่ายึดติด "ต้องไม่มีอคติต่อการใช้อาวุธใดๆ""จิตใจที่สามารถเอาชัยได้ไม่ว่าอาวุธใดก็ตาม คือคำสอนของสำนักแห่ง เฮอิโฮของข้า"เหล่านี้ย่อมเด่นชัด ยิ่งการอ่านชีวประวัตินักดาบท่านนี้จะพบว่าท่านทำจริง หวังว่าผู้สนใจควรอ่านยิ่ง อย่าลืมอีกคำนะครับ "เรียนรู้กลยุทธของช่างใม้อย่างถ่องแท้เมื่อเข้าใจแผนการทั้งหมดได้ดี และถึงเวลาอันควร ก็จะได้เป็นหัวหน้า" ครับ

ตอบ: (เหลียง)
ขอบคุณครับ จริงๆที่เปิดประเด็นเพิ่ม ก็เพราะว่าไม่อยากให้คนอาจไม่เคลียร์และตัดสีนคำว่ามือกระบี่อย่างง่ายๆจากปรัชญาเฉยๆ จนละเลยแนวทางที่แท้จริงอยากที่บอกครับ คัมภีร์ห่วงทั้งห้านั้นนับว่าผมอ่านมานับสิบปีแล้ว ผมจึงบอกว่าเข้าใจเจตนาที่จะสื่อแต่อยากเพิ่มหลายสิ่งเข้าไปในเชิงข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงบ้างครับอีกอย่างผมอยากจะบอกว่า ไม่ใช่ว่าใช้อะไรก็ได้ตามใจ ก็เป็นมือกระบี่ได้หากแต่เข้าใจกระบี่แล้วใช้อะไรก็แสดงถึงเคล็ดกระบี่ได้ต่างหาก ที่ควรเรียกว่ามือกระบี่ครับขอบคุณครับ

No comments: